ซินจ่าว……….เวียตนาม

สวัสดีเพื่อนๆ หลังจากหายไปจากบอร์ดนาน และแล้วเราก็กลับมาพร้อมกับคำทักทายจากเวียตนาม…..ซินจ่าว คือสวัสดี

จ่าว คือ คำทักทายทั่วๆไป
จ่าว บา ใช้กับผู้หญิงสูงวัย
จ่าว โก ใช้กับผู้สาว
จ่าว จิ ใช้กับผุ้หญิงที่อายุมากกว่าเรา

จ่าว อง ใช้ทักผู้ชายสุงอายุ
จ่าว แอง ใช้กับผู้บ่าวทั่วไป
จ่าว บั๊ก ใช้กับผู้ชายที่อายุมากกว่าเรา
จ่าว แอม ใช้กับผู้บ่าวสำน้อย

แอม คือน้อง หรือฉัน เป้นคำสุภาพ เหมือน I am ในภาษาปะกิต

เวียตนาม มีพื้นที่โดยรวมมากกว่าไทยนิดหน่อย แต่ประชากรมากกว่าไทยประมาณ 10 ล้านคน พื้นที่ทั้งเหนือ กลาง และใต้ติดทะเลจีนใต้ เวียตจึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมทะเลจีนใต้-อ่าวตังเกี๋ย จึงมีฝนตกชุกทั่วประเทศ พูดภาษาเวียตนาม ใช้ทั้งอักษรจีนแต่อักษรทางการคือ จื่อ โนม นับถือพุทธโดยส่วนใหญ่ มีถนนหมายเลข 1 เป็นถนนสายหลักจากเหนือสุ่ใต้(ลาดยางตลอดสาย) มีทางรถไฟจากเหนือสู่ใต้ ถนนที่นั่งรถจากเหนือสู่ใต้จะเลาะเลียบชายทะเลไปตลอดเส้นทางกว่า 2000 กิโลเมตร

แต่ก่อนที่เวียตนามจะกลายเป็นหนึ่งเดียว เคยแบ่งเป็นเวียตนามเหนือ และเวียตนามใต้ แยกกันโดยชัดเจน เวียตนามเหนือมีฮานอยเป้นเมืองหลวง ปกครองแบบคอมมิวนิสต์ โดยมีลูกพี่ใหญ่คือรัสเซียและจีน มีBac Ho(บ๊าก โฮ) หรือลุงโฮ(โฮจิมินท์)เป็นผู้นำ ลุงโฮเป็นคนเหง่ อานโดยกำเนิด (เหง่ อาน เป็นจังหวัดนึงในเวียตเหนือ)

ส่วนเวียตนามใต้มีไซ่ง่อนเป็นศุนย์กลาง โดยรวมเว้ ฮอยอันและดานัง(ภาคกลาง)ด้วย ปกครองโดยอเมริกาและฝรั่งเศส ผู้นำคือ นายพลเหวียน ต่อมาเวียตนามเหนือโดยการนำของโฮจิมินท์บุกเวียตนามใต้ บริเวณที่รบกันและคนเวียตนามล้มตายมากที่สุดคือรอยต่อระหว่าง เหง่ อาน กับ ดอง ฮา ซึ่งอยู่ทางเหนือของเว้ลงมาถึงเกือบดานัง ระหว่างทางจะเห็นสุสานทหารเรียงกันเป้นตับทั้ง 2 ข้างถนน แต่ทหารของเวียตนามทั้ง 2 ฝ่ายต้องแยกกันฝังโดยสิ้นเชิง ฝั่งนึงคือเวียตใต้ อีกฝั่งต้องเป้นเวียตเหนือ ปนกันไม่ได้ พอรบกันเวียตเหนือชนะศึก ลุงโฮเลยเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงของเวียตใต้จากไซ่ง่อนเป็นโฮจิมินท์ และมีอนุสาวรีย์ลุงโฮที่ไซ่ง่อน

ที่เว้…แต่ก่อนชื่อทัง ลอง (เวียตนามกลาง ) เป็นเมืองหลวงเก่าคล้ายสุโขทัย-อยุธยา มีวัง และสุสานของกษัตริย์กระจายอยู่ทั่วเมือง เป้นเมืองโบราณที่ยังมีราชนิกูลของกษัตริย์แห่งเว้อาศัยอยู่ เวียตนามมีกษัตริย์ที่ปกครองทั้งสิ้น 13 พระองค์ก่อนที่จะกลายเป็นคอมมิวนิสต์โดยสมบูรณ์จากการปฏิวัติของเหวียน ไอ กว๊อก หรือโฮจิมินท์นั่นเอง กษัตริย์องค์สุดท้ายของเว้ชื่อ พระเจ้าเบ๋าได๋ ทรงสละราชสมบัติให้โฮจิมินท์ ที่พระราชวังซิตาเดล ณ พระที่นั่ง โง มุน หลังคาเขียว เมื่อ คศ. 1945 แล้วไปอยู่ฝรั่งเศสจนสิ้นพระชนม์

แม่น้ำ ที่สำคัญของเว้ชื่อ แม่น้ำฮง ( Song คือแม่น้ำ, Hong คือชื่อแม่น้ำ) หรือเราจะเห้นในภาษาปะกิตว่า perfume river หรือแม่น้ำหอม เพราะว่าแม่น้ำนี้ไหลจากบนเขาทางเหนือลงมากลาง และบนเขามีดอกไม้ชนิดหนึ่งกลิ่นหอมมาก เวลาดอกไม้ร่วงลงแม่น้ำก้จะทำให้แม่น้ำนั้นมีกลิ่นหอม เลยเป้นที่มาของชื่อแม่น้ำหอม

เวียตกลางและใต้…….เป็นแหล่ง ปลูกข้าวที่สำคัญของชาวเวียต นอกจากใช้กินในประเทศแล้วยังส่งออกอีกต่างหาก เวียตใช้เวลาปลูกข้าวแค่ 3 เดือนก็เก็บเกี่ยว ซึ่งใช้เวลาสั้นกว่าไทย (จะไม่ให้ไทยกลัวคู่แข่งค้าข้าวรายนี้ได้อย่างไร) ชาวเวียตปลูกข้าวได้ตลอดปีเพราะน้ำดี ระบบชลประทานดี คนขยัน บ้านหลังเล็กแต่ที่ปลูกข้าว-ปลูกผักมาก

เวียตกลางอีกที่คือฮอยอัน… …เป็นเมืองเล็กๆแต่สงบและสวยงาม มีบริเวณเมืองเก่าแค่ 2 กม.แต่คนที่นั่นยังรักษาบ้านเรือนเก่าๆเอาไว้ได้อย่างดี จนเป็นมรดกโลก……..ฮอยอันมีชายหาดที่สวย สงบ สะอาด และคนไม่พลุกพล่านเหมือนหาดไทย ชายหาดยาวเป้นสิบกิโลแต่ให้สวยสู้หาดไทยนั้นคงยากหน่อย บ้านเล็กๆก่ออิฐถือปูนทาสีเหลืองสไตล์ฝรั่งเศสผสมจีนมีอยู่ทุกพื้นที่ที่ แทรกตัวในหมู่ต้นไม้และระหว่างที่นากับแปลงผัก มองไปทางไหนก็เขียว บางทุ่งข้าวท้องแก่จนใกล้จะได้เก็บเกี่ยวอยู่รอมร่อ

ฮอยอัน…. ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ และอาหารทะเล มีชายหาดที่สวย เงียบ สงบ ยาวสิบกว่ากิโลชื่อ Cau Dai Beach ( เกือ ได๋ ) ที่นี่สวย และสงบ ที่พักไม่มากแต่สวย ราคาถูกและดี สามารถปั่นจักรยานได้รอบเมือง

เมือง ที่อยู่หว่างกลางระหว่างเว้กับฮอยอันคือ เมืองดานัง เป้นเมืองท่าที่สำคัญของการขนส่งสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเวียตในสมัยก่อน ชายหาดติดเมืองแค่ถนนกั้น เย็นๆคนทั้งเมืองจะลงเล่นน้ำทะเลหน้าบ้าน เตะฟุตบอลชายหาด หลังเลิกเรียน-เด็กๆต่างพากันวิ่งลงทะเล ไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นเรือบรรทุกสินค้า เรือเดินทะเล เรือใบ และสารพัดเรือจอดเทียบท่าที่ดานัง (ระยะทางจาดานังถึงฮอยอันคือ 35 กม.)

ทาง ผ่านจากดานังเข้าสู่เว้ เราจะต้องนั่งรถเวียนภูเขา 108 กิโลเมตร ด้านนึงเป้นภูเขา อีกด้านคือทะเล ฝั่งทะเลแดดออกและร้อน พอขึ้นเขาหมอกลงจนแทบจับหมอกได้หรือจะใช้วิธีเสียเงินค่าผ่านอุโมงค์ลอดใต้ภูเขาที่ชื่อ Hai Van Pass หรือ Dao Hai Van ก็ได้ ยาวแค่ 6 กม.เอง แต่ดีมากๆ สมคำที่ว่า…..ชาวเวียตเก่งเรื่องการขุด ไม่งั้นคงไม่ชนะมะกันที่เดียน เบียน ฟู เป็นแน่

ระยะทางจากเว้ถึงฮานอยคือ 654 กม. ราคารถไฟคือ 605 บาท มีแอร์แสนเย็น เบาะนั่งปรับเอนได้ มีข้าวแจกให้กิน 2 มื้อคือ 11 โมง และ 5 โมงเย็น มี Rail TV ให้ดูตลอดทาง แต่หนวกหูเพราะเปิดเสียงดัง และฟังไม่รู้เรื่อง รถไฟมีทั้งแบบเร็วและแบบช้า เราไปแบบเร็วใช้เวลา 12-13 ชม. นั่งกันตั้งแต่ 9.30 ถึง 22.30 น. ดูทีวีจนตาแฉะ เมื่อถึงเมืองใหญ่-จะมีแนะนำเมือง สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนั้นทาง Rail TV ในโบกี้ที่เรานั่งจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งที่หันหน้าไปทางเดียวกับการแล่นของรถไฟคือชาวเวียต-เบาะแคบ คนเต็ม ฝั่งที่หันหน้าสวนทางกับการวิ่งของรถไฟคือชาวต่างชาติ-เบาะกว้าง สบาย แต่ข้อเสียของคนเวียตคือไม่มีกฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เพราะฉะนั้นถึงแม้จะมีป้าย …ห้ามสูบบุหรี่…..บนรถไฟ ทั้งที่มีแอร์ เค้าก็จะยังสูบกัน เรามองจนตาเขียว เค้าก็เฉยๆ เราบอกให้ไปสูบข้างนอกเค้าก็เฉยๆ จนต้องออกปากไล่ให้ออกไปข้างนอก แต่เมื่อไหร่ที่เราเผลอเค้าก็จะงัดออกมาสูบอีก จนเราเบื่อที่จะบอก……..

ฮา นอย………คือชื่อเมืองหลวงของชาวเวียต ใหญ่ เจริญ คนเยอะ มีตึกรามบ้านช่องที่ใหญ่โตกว่าเมืองอื่น มีสีสันยามค่ำคืน แต่คนยังเป็นชาวเวียตที่มีนิสัยขี้ระแวงเหมือนเดิม และอีกอย่างที่ไม่แตกต่างกันมากนักของชาวเวียตคือ…โกง….

ในตอน เช้าของทุกวัน เสียงแตรจากรถมอไซค์-รถยนต์จะแข่งกันบีบจนลั่น คนที่นอนอยู่บนเตียงจะรู้เลยว่า…นี่คือช่วงเวลาที่ชาวเวียตตื่นและออกจาก บ้านแล้ว ทุกถนนจะเต็มไปด้วยมอไซค์วิ่งกันเต็มไปหมด เวียตนามเป้นประเทศที่มีการขับขี่ที่ไม่เป้นระเบียบที่สุดในโลกและจ๊อก แจ๊กจอแจ สับสนวุ่นวายที่สุด หากคุณต้องการเดินข้ามถนน……..จงเดินข้ามเลยอย่าเหลียวหลัง มอไซค์จะหักหัวหลบคุณเอง ยกเว้นอย่าไปลองกับรถใหญ่อย่างรถโดยสารโดยเเด็ดขาด

ที่ ฮานอย….หากพักแถบเมืองเก่า….จะมีที่ให้ไปเดินเล่นและเที่ยวชมเยอะมากด ดยไม่ต้องนั่งรถ แต่ถ้าคุณต้องการนั่งรถแท๊กซี่เมื่อไหร่ก้ให้เรียกรถแท๊กซี่คันเล็กสีเขียว เท่านั้น เพราะราคาเริ่มต้นจะต่ำที่สุดและไม่โกง….

………………..เอาข้อมูลคร่าวๆไปก่อนละกันนะเพื่อนๆ……………..ส่วนรูปรอสิ้นเดือน เพราะตอนนี้หมดตูดแล้ว

ตามเบียด……..

อ้อ….เวียตเหนือมีที่ราบลุ่มสำหรับปลูกข้าวด้วยนะ คือที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง ( red river ) หรือแม่น้ำโขงนั่นเองสำหรับ สาเหตุของการเรียกชื่อแม่น้ำแดงคือ เวลาหน้าฝน-น้ำขึ้น สีน้ำจะขุ่นและแดงเพราะดินตะกอนนั่นเอง สำหรับภาคเหนือของเวียตปลูกข้าวเอาไว้กินนะจ๊ะ ไม่ได้ปลูกขาย

ส่วนข้อมุลอื่นๆ ค่อยว่ากันอีกที และที่สำคัญ รูปประกอบคงต้องรอเงินเดือนออกก่อนเด้อ…..

วุ่นวายที่ฮานอย…………..

โดย: ภาษ-นักผจญภัย [20 เม.ย. 49 15:16] ( IP A:202.183.129.162 X: )

54 ความเห็น »

  1. ag27kku said

    ปูเสื่อ นั่งรอแถวหน้า :D

    โดย: หน่อย HIV [20 เม.ย. 49 22:43] ( IP A:58.136.93.115 X: )

  2. ag27kku said

    นำแน

    โดย: เอ [21 เม.ย. 49 14:33] ( IP A:202.29.14.241 X: )

  3. ag27kku said

    โพสต่อๆๆๆๆๆ รอต่อแถวจากหน่อยกะเอ รูปเยอะๆนะ ชอบ

    โดย: กุ้ง ประมง [21 เม.ย. 49 19:20] ( IP A:61.90.246.100 X: )

  4. ag27kku said

    รอดูอยู่แถวหน้าด้วยคนจ้า มาโพสต่อเร็วๆเด้อน้องภาษ

    โดย: pomCNN26 [21 เม.ย. 49 22:11] ( IP A:203.118.113.187 X: )

  5. ag27kku said

    ตั้งหน้าตั้งตาดูเหมือนกันค่ะ

    โดย: ป้อม 30 ค่ะ [22 เม.ย. 49] ( IP A:203.188.14.79 X: )

  6. ag27kku said

    สวยจัง สมเป็นนักผจญภัย

    โดย: ดักแด้ [24 เม.ย. 49 12:42] ( IP A:125.24.97.255 X: )

  7. ag27kku said

    ขอร่วมแจมอยู่แถวหน้ารอดูด้วยคนนะคะ

    โดย: น้องรุ่ง [24 เม.ย. 49 16:00] ( IP A:210.1.7.194 X: )

  8. ag27kku said

    เฮ้ยภาษ…แกไปเวียดนามตอนไหนวะ…ยังคุยกันอยู่แหมบๆอยู่เลย
    มิน่าละ ชวนไปเขมรไม่ยอมไปที่แท้มีโครงการไว้นี่เอง…
    ยังไงก็อย่าลืมโชว์รูปให้ดูด้วยนะ
    อ้อ..รูปพระราชวังสนามจันทร์ด้วยเด้อ

    โดย: กุ้งวรา [24 เม.ย. 49 16:31] ( IP A:194.208.214.39 X: )

  9. ag27kku said

    ภาษ…..สิ้นเดือนแย้ว เพื่อนๆ รอดูรูปอยู่นะจ๊ะ ได้ข่าวว่าสาวเวียตสวยมั่กมาก อยากเห็นๆๆๆๆ

    โดย: meen [29 เม.ย. 49 22:35] ( IP A:213.102.131.174 X: )

  10. ag27kku said

    ซินจ่าวเพื่อนๆที่รักทั้งหลาย……………………..

    โครงการแบก เป้ตะลุยเวียตนามของเรามีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่ยักกะเป็นรูปเป็นร่างซักกะที ก็เพราะเวลากับเงินตรามักมาไม่ตรงกันนั่นเอง…….เราเลยได้แต่นั่งอ่านนอน อ่านข้อมูลจากหนังสือบ้าง จากเว็ปบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในโอกาสที่เราอาจได้ไป พอเดือนมีนาย่างกรายเข้ามา….เพื่อนๆที่ทำงานก็เริ่มบีบบังคับแกมขู่ขอร้อง ว่า..ให้ช่วยพาไปเที่ยวหน่อยแถม…ทำโปรแกรมการเที่ยวด้วยนะ+พร้อมข้อมูล สถานที่เที่ยวโดยละเอียด โอ้…พระพุทธเจ้า ข้าน้อยยังไม่อยากไปแท้ๆแต่ก็ต้องจำใจทำโปรแกรมขึ้นมา แถมด้วยการอ่านข้อมูลเพื่อบรี๊ฟให้เค้าฟังอีกต่างหาก………….

    พอเริ่มวางโปรแกรมว่าจะไปช่วงสงกรานต์ก็ต้องปวดกะบาลว่า….จะไปยังไง-กลับยังไง ไปรถ-กลับเครื่อง หรือไปเครื่อง-กลับเครื่อง

    ข้อ ดีของการไปรถ-กลับเครื่องคือ ประหยัดค่าเดินทางไปครึ่งนึงและได้เที่ยวเว้-ฮอยอัน และดานัง แต่ข้อเสียคือเหนื่อยตอนต้น ต้องนั่งรถข้ามลาวไปเวียตนาม เสียเวลาอาจจะ 1 หรือ 2 วัน และต้องไปเสี่ยงต่อรถเอาที่ลาวซึ่งราคาการเหมารถอาจไม่แน่นอน เผลอๆอาจแพงกว่าไปเครื่อง-กลับเครื่องและต้องนั่งรถ-รถไฟขึ้นเหนืออีก 14 ชม.เพื่อกลับไปนั่งเครื่องแค่ไม่ถึง 2 ชม.กลับเมืองไทย

    ข้อดีของการ ไปเครื่อง-กลับเครื่องคือ ไม่เหนื่อย มีเวลาเที่ยวเยอะ แต่ก็มีข้อเสียคือแพงไปหน่อยสำหรับคนจนๆอย่าเรา และถ้าต้องการเที่ยวเว้-ดานัง-ฮอยอันด้วยก็ต้องนั่งรถหรือรถไฟหรือไม่ก็นั่ง เครื่องเวียตนามแอร์ภายในประเทศมาลงดานัง ซึ่งก็เสียเวลาและจ่ายเพิ่มอยู่ดี

    เรา จึงขอแนะนำเพื่อนๆว่า….ไปเครื่อง-กลับเครื่องประหยัดเวลาที่ซู๊ด เพิ่มเงินค่าเครื่องนิดหน่อยแต่คุ้มกว่า และถ้าจะเที่ยวแบบลงลึกต้องอยู่กับที่เช่น ไปฮานอยก็อยู่เฉพาะฮานอยหรือไปฮาลองเบย์ด้วย แค่ 3 วันก็พอ ถ้าจะไปเว้-ดานัง-ฮอยอันก็อยู่เฉพาะที่นั่นไม่ต้องไปฮานอย เพราะเว้-ดานัง-ฮอยอันมีที่เที่ยวสวยๆเยอะ อยู่เว้ 2 วัน ไปฮอยอัน 2 วัน ดานัง 1 วัน แค่นี้ก็พอแล้ว แต่การไปเว้-ดานัง-ฮอยอัน ยังต้องอาศัยรถอยู่ กก็ลำบากหน่อย แต่คุ้ม หรือง่ายๆนั่งเครื่องไปลงฮานอยแล้วต่อเครื่องมาลงดานัง จากนั้นก็เที่ยวตามที่บอกไว้แล้ว ขากลับก็นั่งรถข้ามลาวมาไทยทางมุกดาหาร ก็สบายดีนะ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 11:29] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  11. ag27kku said

    การเดินทางของเรา………….
    วันที่ 11 เมษายน 2549 เวลา 21.00 น.ที่หมอชิต คนแสนแปดออกันอยู่ที่ท่ารถของสหพันธ์ร้อยเอ็ดทัวร์เพื่อไปร้อยเอ็ดและ มุกดาหาร พวกเรา 6 คนก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ ขนาดไปก่อนเวลารถออก 2 ชม. ยังเกือบจะไม่ทัน 3 ทุ่ม เพราะหมอชิตคืนนี้คนแน่นมากเนื่องจากวันหยุดยาว ใครๆ…..ก็อยากกลับบ้าน เราเห็นคนยั๊วเยี๊ยขนาดนั้นก็พาลจะเป็นลมแต่ด้วยความที่ตั้งใจว่าจะเที่ยว แล้ว เลย…ศรีทนด้าย….

    เรานั่งรถเสริมเวลา 3 ทุ่ม แต่กว่ารถจะออกก็ปาไป 6 ทุ่ม 5555 จะบ้าตาย หลังจากนั้นเราก็หลับๆตื่นๆไปจนถึงขอนแก่น

    เช้า วันที่ 12 เมษายน 2549 เราตื่นมาดูขบวนรถจากเมืองกรุงมุ่งสู่อีสานที่วิ่งตามกันยาวเป็นหางว่าว กว่าจะถึงมุกดาหารก็เกือบบ่าย 2 โอย…..ทรมานเด้ ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน เที่ยงก็หิว น้ำก็ไม่ได้อาบ เลยโทรหาจันทร์สว่าง-เพื่อนม.อุบลรุ่นเรา เพราะจันทร์สว่างทำงานที่พืชไร่-มุกดาหารเพื่อไปอาบน้ำและกินข้าวก่อนจะนั่ง รถต่อไปด่าน ตม.และท่าเรือข้ามฟากไปสะหวันเขต กว่าจะอาบน้ำกินข้าวเสร็จเกือบ 4 โมงเย็นต้องรีบไปทันด่านปิดก่อน 4 โมงเย็นโดยความอนุเคราะห์ของจันทร์สว่างที่ขอร้องพี่ที่ศูนย์ขับกระบะมาส่ง 5555

    ถึงท่าเรือข้ามฟากต้องตาเหลือกไปเขียนใบขาเข้า-ขาออกก่อนซื้อ ตั๋วเรือข้ามไปสะหวันเขต ตอนอยู่บนเรือเราคาดว่าคงไปไม่ทันด่านลาวบาวที่จะข้ามไปเวียตทัน 1 ทุ่ม เลยถามเรื่องที่พักกับเอื้อยใจดีบนเรือ เค้าก็แนะนำที่พักและรถเหมาไปเว้ให้ ก็เป็นอันว่าเราเดินทาง 1 วัน 1 คืนก็ยังไปไม่ถึงเว้-เวียตนาม คงต้องรอพรุ่งนี้เช้า…..พอลงเรือปุ๊บก็ต้องปีนบันไดดินขึ้นไปด่านลาวอีก 200 เมตร เล่นเอาเหงื่อตกอีกรอบแถมต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้ ตม.ลาวด้วยจากราคาปกติ 50 บาทเป็น 70 บาท/คนเป็นค่าเหยียบแผ่นดิน หลังจากนั้นก็ถึงขบวนการคัดเลือกรถตู้ไปเว้ แต่เราเห้นว่าเย็นแล้วและไปไม่ไทนด่านลาวบาวที่จะข้ามไปเว้ได้ทันเลยขึ้นสาม ล้อไปหาที่พักในสะหวันเขตกัน

    อ้ายคนขับสามล้อถามพวกเราว่าจะไปพักที่ ไหน เราบอกว่าบ้านสี่หลัง-สวรรค์บ้านเฮา เค้าบอกว่า…ไม่สะอาดเด้อ หาหม่องใหม่ซะ เราเลยให้แกพาไปที่แกบอกว่าสะอาดและถูก สุดท้ายได้ที่พักชื่อ สุกดาวอน ราคา 300 บาท/คืน/2คน สะอาดดีใช้ได้ แต่ต่อราคาบ่ได้เลย

    พอเก็บของเสร็จ อ้ายสามล้อยังรออยู่เพราะบอกแกว่าจะไปไหว้พระธาตุอิงฮัง เลยเหมาสามล้อแกไปต่อในราคาคนละ 100 บาท ฮ่วยแพงขนาด เพราะตอนที่ต่อราคากันเราไม่อยู่เลยต้องเลยตามเลย ถ้าเราอยู่แกคงได้ราคาน้อยกว่านี้แน่ พระธาตุอิงฮังอยู่ห่างจากตัวเมืองสะหวันเขตประมาณ 15 กม. นั่งสามล้อยามเย็นนี่มันเย็นดีจริงๆนะ สองข้างทางไปนี่เป้นป่าทั้งนั้น เออ..เย็นดีว่ะ อากาศดี สดชื่น สูดลมหายใจได้เต็มปอด แต่อย่าสูดมากเดี๋ยวฝุ่นมันจะเข้าปอดเยอะเกิน

    พอถึงธาตุอิงฮังก็ต้อง ไปสวมผ้าถุงทับกางเกงก่อนเข้าวัดตามธรรมเนียม ซึ่งทางวัดจะมีบริการแต่ต้องจ่ายด้วยโดยการทำบุญตามศรัทธา เราเข้าไปข้างในกำแพงวัดก็เจอกับพี่น้องชาวลาวที่มาไหว้พระธาตุและทำบุญใน วันพระก่อนวันเนาว์ เป้นที่น่าสังเกตุว่า…พี่น้องชาวสะหวันเขตทุกรุ่นทั้งผู้ใหญ่ หนุ่ม-สาว และเด็กเข้าวัดฟังธรรมมากกว่าชาวไทยซะอีก

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 11:30] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  12. ag27kku said

    พระกำลังทำวัดเย็นหน้าธาตุอิงฮัง

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 11:32] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  13. ag27kku said

    พระธาตุอิงฮัง….ศูนย์รวมศรัทธาของชาวสะหวันเขต

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 11:34] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  14. ag27kku said

    วัดธาตุอิงฮังเมื่อวันพระ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 11:36] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  15. ag27kku said

    ด้านนอกวัดธาตุอิงฮังกับพระจันทร์วันเพ็ญ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 11:38] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  16. ag27kku said

    รูปกลุ่มนี้ถ่ายด้วยดิจี๊ต๊อลลลลของ เพื่อนเรา เพราะเราไม่ได้แบกขาตั้งกล้องไปด้วยเนื่องจากว่าขี้เกียจ เป็นอันว่า1 วัน 1 คืนเรามาถึงแค่สะหวันเขต เฮ้อ….คิดแล้วเหนื่อย ไม่น่ามาเที่ยวช่วงสงกรานต์เล๊ย

    พอเริ่มมืด เราก็ออกจากวัดธาตุอิงฮัง เพื่อกลับไปหาข้าวกิน หารถไปเว้พรุ่งนี้เช้า อาบน้ำ และนอน ตอนนั่งสามล้อกลับเราก็เริ่มคิดกันว่าจะกินข้าวที่ไหนที่อร่อย ถูก สะอาด บรรยากาศดีในราคาไม่เกินคนละ 60 บาท 555555 จะกินเริ่ดแต่จนง่ะ อ้ายสามล้อก็บรรยายร้านอาหารแต่ละที่ให้ฟังจนห็นภาพหัวแกเป็นหัวปลาหม้อไฟก็ ยังไม่เห้นร้านอาหารซักร้าน ตอนขามาธาตุอิงฮังแกชี้ให้ดูร้านอาหารชื่อ..ป่าพร้าว…ให้พวกเราดู แล้วบอกว่า สมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จมาเสวยที่ร้านนี้ด้วย บรรยากาศดี น่านั่ง ลมเย็นและอาหารอร่อย อาจจะแพงกว่าร้านอื่นๆบ้าง แต่คิดดูแล้วคุ้ม แถมร้านนี้มีแต่ผู้ใหญ่ผู้โตมากินทั้งนั้น พอขากลับแกขับผ่าน-เราเลยคอนวินซ์พี่ๆว่า…กินร้านนี้เหอะพี่ อยากลองของแพงแถมเราอาจเป็นผู้ใหญ่ผู้โตในอนาคตก็ได้ ทุกคนเห็นด้วย เลยหันหัวรถสามล้อกลับเข้าไปในถนนฝุ่นสีแดงตรงเข้าไปในร้านอาหาร..ป่าพร้าว. …

    บรรยากาศสมกับที่อ้ายสามล้อโม้ไว้มาก ร้านตกแต่งแบบชาวลาวแท้ๆ น่านั่ง ลมเย็น มีต้นมะพร้าวปลูกเป้นทิวแถว แต่เสียดายที่เริ่มมืดทั้งบรรยากาศและหน้าของพวกเรา เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากกัน ที่เสาภายในร้านมีรูปสมเด็จพระเทพประทับยืนเคียงข้างเจ้าของร้านและท่านเจ้า แขวงสะหวันเขตย่อตัวน้อยๆอยู่เยื้องด้านหลังท่าน เห็นแล้วคิดถึงเมืองไทยและสำนึกในพระกรุณาของท่านจริงๆ ทรงแย้มพระสรวลทั้ง 2 ภาพ เห็นแล้วชื่นใจ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากอยู่ดี 5555

    หลังจากอิ่ม หนำกับกับข้าวแสนอร่อยฝีมือคนครัวผู้ชำนาญและอิ่มหนำกับบรรยากาศและความน่า รักของคนเสริฟและเจ้าของร้านแล้ว เราก็อำลาร้านป่าพร้าวด้วยค่าเสียหาย แสน4กีบปลาย กิน 7 คน คุ้มขนาด แล้วก็ถึงเวลาตระเวณหารถตู้เพือ่เหมาเข้าเว้โดยอ้ายสามล้อเป็นคนพาไป ไปเจอเจ้าของรถตู้ 2-3 ราย สุดท้ายก็ตกลงราคาได้กับอ้ายสมพิดที่ราคา 7000 บาท พรุ่งนี้เช้าตี 3 แกจะมารับ โอ้…พระเจ้าเช้าจริงๆ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 12:11] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  17. ag27kku said

    เมื่อคืนตอนกลับมานอนที่สุกดาวอน เราบอกเจ้าของที่พักว่า……ตี 2กว่าๆ ช่วยปลุกด้วยเพราะต้องออกเดินทางตอนตี 3 แกก็ใจดีรับปากว่าจะปลุกให้ พอตี 2 กว่าๆก็มีคนมาเคาะประตูห้องจริงๆ แต่ปรากฏว่าเป็นพี่ที่ไปด้วยกันนั่นแหละมาเคาะ แหม๊…อุตส่าห์คิดว่าเจ้าของใจดีลุกมาเคาะห้องตอนตี2 กว่า 5555 พอตี 3 กว่านิดๆอ้ายสมพิดรถตูกับเมียก็เดินทางมาฮอด โอ้…รถตู้แกนี่ดีจริงๆ เหมาะสมกับพวกเรามาก เพราะมี 8 ที่นั่งรวมคนขับ พวกเรา 6 คน เมียแกอีก 1 นั่งสบายมาก กว้างขวาง แถมบริการน้ำ ขนม และเพลงไทยด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู อิๆๆๆๆๆ

    ออกเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 9 ของลาว

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 13:21] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  18. ag27kku said

    เกือบ 7 โมงเช้าแวะกินเฝอร้านอร่อยข้างทางก่อนไปทำพิธีการเข้าเวียตที่ด่านลาวบาว โดยทุกคนต้องลงมากรอกข้อมูล ยื่นหนังสือออกจากลาวแล้วนั่งรถต่อไปด่านเวียต กรอกข้อมูล แลกเงิน แล้วยื่นหนังสือผ่านด่าน แล้วก็บรรลุเข้าสู่เวียตนาม……….จากด่านลาวบาวสู่ดงฮาแล้วเลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงหมายเลข 1 ของเวียตเข้าสู่เว้ พวกเราถึงเว้ประมาณเที่ยง อ้ายสมพิดแนะนำโรงแรมที่ควรพักชื่อ Phu Hue hotel (โรงแรมฝู เว้) ซึ่งราคาถูกมาก ห้องละ 400 บาท/คืน นอนได้ 3 คนต่อห้อง อ้ายสมพิดคุยภาษาเวียตกับเจ้าของโรงแรมคล่องปรื๋อ ตกลงฝากฝังพวกเราเสร็จก็เดินทางกลับพร้อมกับภรรเมีย พวกเราก็หอบของอีรุงตุงนังขึ้นห้อง จัดของไปก็คุยกันไปว่าจะกินข้าวเที่ยงที่ไหนดี ที่อร่อย สะอาด และถูกๆ 5555 ตามคอนเซ็ปต์ ตอนแรกเราเสนอแนะเพื่อนๆว่าไปกินอาหารเวียตนามเจ้าอร่อยชื่อร้าน Lac thien ดีกว่า อร่อย ราคาถูก และเจ้าของร้านใจดีตามคอมเมนท์ของคนที่มาเที่ยวเว้แล้วยกนิ้วให้และแนะนำ ต่อๆกันมาในเว็ปเที่ยว แต่ไปยังไม่ถูก เลยเอาเมนูอาหารของโรงแรมมาดูอาหารเซ็ตสำหรับ 6 ท่าน แค่คนละ 60-70 บาทเอง มีกับข้าว 5-6 อย่าง ข้าวเสริฟไม่อั้น แถมเจ้าของโรงแรมยังมาพูดดีกันอีกว่าร้าน Lac Thien เหรอ…อย่าเลย ไม่สะอาดหรอก อย่าไปหากินข้างนอกเลย กินที่โรงแรมเราเถอะ รับรอง สะอาด อร่อย กินแล้วท้องไม่เสีย และด้วยความที่หิวจนหน้ามืดและคิดว่าคงไปเดินตามหาร้าน Lac Thien ไม่ไหวก็เลยตกลง กินก็กินฟะ….เลยสั่งอาหารชุดของโรงแรมสำหรับ 6 คนมาลอง ดู เออ…ใช้ได้แฮะ เพียงแต่ว่าที่เว้เนี่ย กินทุกอย่างต้องแกล้มผัก และหมูต้อง 3 ชั้นติดมันด้วย อาหารออกจืดหน่อยแต่ก็อร่อยดี

    ที่พัก…Phu Hue Hotel

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 14:20] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  19. ag27kku said

    ศิลปะจีนผสมฝรั่งในห้องพัก

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 14:25] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  20. ag27kku said

    ห้องอาหารมี 2 ชั้น ชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งชั้นล่างใช้เป้นที่รับแขกและเช็คอินด้วย

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 14:58] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  21. ag27kku said

    นี่แหละหน้าตาอาหารเที่ยงมื้อแรกที่เว้.. …เราชอบแกงจืดผักกาด น้ำซุปอร่อยดี ปลากะพงราดพริก ผัดผักบุ้ง ผัดปลาหมึก หมูสามชั้นกินกับผักสารพัดชนิดและน้ำพริกกุ้งเค็มคล้ายๆกุ้งร้า-ถ้วยเล็ก นั่นแหละ 5555

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:02] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  22. ag27kku said

    พูดเรื่องอาหาร…กินที่โรงแรมก็อร่อยดี ไม่แพงด้วยแค่คนละ 60-70 บาทเอง ค่าน้ำเปล่าขวดลิตรขวดละ 37.5 บาท ข้าวเสริฟไม่อั้น แถมเจ้าของมาตอยยืนบริการด้วยเผื่อมีอะไรขาดเหลือ แต่พวกเรา 6 คนกินก็ไม่หมด ไม่รู้คนครัวจะบ่นน้อยใจว่ากับข้าวไม่อร่อยหรือเปล่า แต่เพราะทุกอย่างจานยักษ์ เราเลยกินกันไม่หมดน่ะ 5555

    หลังจากอิ่ม หนำสำราญกับอาหารเวียตมื้อแรกที่เว้แล้ว เราก็เดินทางไปพระราชวังต้องห้ามหรือพระราชวังซิตาเดลที่เคยเป็นวังของ กษัตริย์แห่งเว้และเวียตนามถึง 13 พระองค์เมื่ออดีตก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง เราต้องนั่งรถข้ามสะพานข้ามแม่น้ำหอม(perfume river)ไปอีกฝั่งนึงของแม่น้ำ เมื่อรถผ่านกำแพงชั้นแรกของวังเข้าไป เราก็จะเจอกับลานสวนสนามและธงชาติผืนใหญ่สัญลักษณ์ของชาวเวียต

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:24] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  23. ag27kku said

    กลับหลังหันมาเจอประตูโงมุนทั้งหลังคาเขียวและเหลือง

    เหนือ ประตูโงมุนจะเป็นที่ประทับของกษัตริย์เวลาออกมาชมการสวนสนามของเหล่าทหารหาญ พระที่นั่งหลังคาเหลืองเป็นที่เฉพาะของกษัตริย์เท่านั้น

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:29] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  24. ag27kku said

    ส่วนปีกทั้ง 2 ข้างของพระที่นั่งโงมุนจะมีหลังคาสีเขียว ซึ่งพระที่นั่งหลังคาเขียวปีกขวานั้นกษัตริย์เบ๋าได๋-กษัตริย์องค์สุดท้าย ของนครเว้ได้ทรงใช้เป้นที่สละราชสมบัติให้แก่โฮจิมินห์เพื่อเปลี่ยนแปลงการ ปกครองเมื่อปี 1945 นั่นเอง

    หลังคาเหลืองกับหลังคาเขียว

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:33] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  25. ag27kku said

    พระที่นั่งหลังคาเหลือง-สำหรับกษัตริย์เท่านั้น

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:36] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  26. ag27kku said

    พระที่นั่งหลังคาเขียวปีกซ้าย

    กดเพื่อดูภาพ

    ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:37] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  27. ag27kku said

    คูน้ำรอบวังภายในกำแพงชั้นที่ 1 มองจากบนพระที่นั่งโงมุน

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:41] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  28. ag27kku said

    พระที่นั่งหลังคาเขียวปีกขวามองเห้นธงชาติ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผญภัย [5 พ.ค. 49 15:43] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  29. ag27kku said

    มองจากพระที่นั่งโงมุนเห็นพระราชวังชั้นที่ 2 โดยต้องเดินผ่านสะพานน้ำทอง ซึ่งในสมัยโบราณใช้เฉพาะกษัตริย์เท่านั้น

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:45] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  30. ag27kku said

    ปลาคาร์ฟในสระสะพานน้ำทอง

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 15:53] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  31. ag27kku said

    เดินข้ามสะพานน้ำทอง เข้าสู่ประตูชั้นที่ 2 ผ่านกำแพงวังชั้นที่ 2 เราก็จะมาโผล่ที่วังชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นในสุดของวังต้องห้าม ประกอบไปด้วย ซากลานวังเก่าซึ่งใช้ตรวจดูระบบสุริยจักรวาล แต่โดนถล่มจากสงครามดลกครั้งที่ 2 เลยเหลือเท่าที่เห็น

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:03] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  32. ag27kku said

    ซากวังชั้นในสุดหลังโดนระเบิดถล่มจากฝ่ายพันธมิตรเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่ 2

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:08] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  33. ag27kku said

    ส่วนข้างซ้ายและข้างขวาของลานชั้นในเป้นโรงงิ้วที่ใช้เล่นในวัง
    โรง งิ้วด้านซ้ายปัจจุบันกลายเป้นที่เช่าชุดงิ้วแล้วนั่งเก้าอี้ถ่ายรูปเป็นที่ ระลึกในชุดกษัตริย์โบราณและอื่นๆ ส่วนโรงละครด้านขวากลายเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆเก็บของใช้ส่วนตัวบางอย่างของ กษัตริย์ เช่นหอก ดาบ ถ้วย กา ชาม และชุดกษัตริย์โบราณ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:12] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  34. ag27kku said

    โรงงิ้วด้านขวาของลานกลายเป็นที่ขายของที่ระลึก

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:14] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  35. ag27kku said

    ชุดกษัตริย์โบราณ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:15] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  36. ag27kku said

    หอก ดาบ และอื่นๆ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:20] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  37. ag27kku said

    อิทธิพลจีนในสถาปัตยกรรมชาวเวียต

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:24] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  38. ag27kku said

    เว้ก็มีช้างทรง

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:29] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  39. ag27kku said

    ถนนด้านหน้าประตูโงมุน

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:31] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  40. ag27kku said

    ออกจากวังต้องห้าม เรานั่งรถไปเจดีย์เทียนหมุริมแม่น้ำหอม เจดีย์เทียนหมุอยู่ห่างจากวังซิตาเดลประมาณ 5 กม. ตอนที่เราไปถึงนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มและลมแรงหอบเอาเม็ดดินเม็ดทรายเข้าหูเข้า ตาจนแทบเผยอลูกกะตาไม่ได้เชียวหล่ะ แต่ก็ได้รูปมาฝากดังนี้

    เจดีย์เทียนหมุ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:37] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  41. ag27kku said

    แม่น้ำหอมก่อนฝนลง

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:38] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  42. ag27kku said

    ด้านหลังเจดีย์เทียนหมุคือประตูที่สารถผ่านเข้าไปยังด้านหลังได้

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:40] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  43. ag27kku said

    ตรงประตูนั้นมีลายปูนปั้นเทพเจ้ากวนอู-เตียวหุยด้วย

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:42] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  44. ag27kku said

    พอฝนตั้งเค้ามาแต่ไกลเราก็ต้องจำใจจาก เจดีย์เทียนหมุเข้าสู่ตลาดดงบาเพื่อตามหาเป้ราคาถูก แต่ปรากฏว่า มันไม่ได้ถูกอย่างที่เข้าใจ เลยดูๆๆๆแล้วก็บอกเพื่อนๆว่าไปซื้อที่ฮอยอันดีกว่า…

    ตอนเดินออกมา ด้านนอกตลาดเราเกิดความอยากจะกินผลไม้ เลยเร่เข้าไปถามแม่ค้าขายส้มว่าขายยังไง…จิ๊ ยาบาวเยียว…. แค่นั้นแหละ จิ๊ตอบมาว่ากิโลละ 50 บาทไทย เราเลยรีบซินโหล่ยแล้วเดินจากมาด้วยความอาลัย แต่มาถึงตลาดดงฮาทั้งทีต้องหาอะไรกินแบบชาวเว้ซะหน่อย เดินผ่านหาบหมูปิ้งก็อยากกิน แม่ค้าหาบเตาถ่านแดงๆมานั่งพัดไฟอยู่ปื๊ดๆให้เห็นว่าย่างจริง กลิ่นหมุปิ้งหอมตลบ แต่สุดท้ายก็ได้แค่ถ่ายรูป

    เตาถ่านแดงแปร๊ดไว้ปิ้งหมู

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:48] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  45. ag27kku said

    เมื่อหมูปิ้งไม่ได้ลิ้มลอง เราเลยเสนอพี่ๆเพื่อนๆว่า กินหนมหวานกันไม๊ จำพวกถั่วเขียวต้ม เต้าทึง ถั่วแดงต้มอะไรประมาณนี้ คราวนี้เราประสบความสำเร็จในการหว่านล้อมแฮะ เลยได้ลองหนมถั่วต้มของชาวเว้ หวานมาก แก้วละ 500 ด่อง แต่เค้าขายเราแก้วละ 1000 ด่อง ( 2.5 บาท) ฮี่ๆๆๆๆๆ แต่ก็ถูกละฟะเลยซื้อมาแบ่งกันกินเพราะต่างคนต่างอิ่มจากข้าวเที่ยงตอนเกือบ บ่าย 2ที่โรงแรม

    หาบขนมถั่วเขียว ถั่วแดง เต้าทึง ต้มน้ำตาล..เห็นแล้วคิดถึงของหวานในการออกค่ายซะจริงๆ

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 16:53] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  46. ag27kku said

    หลังจากกินของหวานที่ตลาดดงบาเสร็จเราก็ เดินกลับโรงแรม แต่กลัวว่าทุกคนจะหิวเราเลยชวนว่าไปกินอาหารเวียตนามที่ร้าน LacThien กันไม๊ แต่เราไม่รู้จักทางไปเลยว่าจะนั่งซี่โคล่ไปกัน แต่ต่อรองราคาซี่โคล่ไม่ได้ และที่สำคัญคือเจอคนถีบซี่โคล่ตามตื๊อเกินพร้อมกับกลิ่นเหล้าขาวหึ่ง คนอื่นๆเลยส่ายหน้าดิกว่า…ไม่ไป เราก็เลยเดินกางร่มตากฝนกลับโรงแรม แล้วเราก็ได้กินขนมเบื้องญวณที่โรงแรมเป็นมื้อที่ 2 ซึ่งเพื่อนบางคนสั่งข้าวผัดบ้าง ซุปเกี๋ยวบ้าง ก็อร่อยไปอีกแบบ แต่เราไม่ค่อยชอบแฮะ เราว่าที่โรงแรมนี่เขียมเครื่องขนมเบื้องญวณมากเกินไปเพราะไข่ก็ใส่น้อยแถม มีแต่แป้งอีกต่างหาก หลังจากกินอิ่มแล้วเราก้ตั้งปณิธานในใจตัวเองคนเดียวไว้ว่า…ชั้นต้องไปกิน อาหารเวียตนามที่ร้าน Lac Thien ให้ได้……แล้วก็ขึ้นห้อง อาบน้ำ เพื่อนๆนอนกันหมดแล้วเรายังคงนั่งจดบันทึกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆอยู่คนเดียว และดูโปรแกรม+ค่าใช้จ่ายในวันถัดไปด้วย 6 ทุ่มกว่าก็ถึงเวลานอนของเรา

    วัน ที่ 14 เมษายน 2549 วันนี้ตื่นกันตี 5 กว่าเพราะว่า 6 โมงเช้าจะมีรถตู้มารับไปฮอยอัน ซึ่งเราตกลงว่าจ้างและให้เจ้าของโรงแรมติดต่อให้ในราคา 75 USD เที่ยวดานัง-ฮอยอัน 1 วันไป-กลับ รถตู้มาตรงตามเวลา คนขับชื่อดวน พูดภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ เราต้องใช้ภาษาใบ้บ้าง ภาษามือบ้าง และภาษาทะเล้นบ้างตามสไตล์ แต่เค้าก็น่ารักดีไม่มีบ่น เพียงแค่แสดงออกทางสีหน้าบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเอง อิๆๆๆ เราหลอกล่อถามเค้าเรื่องลูก-เมียอยู่ตั้งนานกว่าจะรู้เรื่องกัน ตกลงคือเค้ามีเมีย 1 ลูก 5 คน ว๊าว….เค้าเป็นคนขับรถของบริษัททัวร์ นี่คือจากการสรุปใจความกันเองตามภาษาที่พอรู้เรื่องกันนะ 555555

    ถนนออกนอกเมืองเว้จะสงบมากในกรณีเช้ามากๆ ถ้าสายหน่อยรถมอไซค์จะเต็มถนนไปหมดพร้อมๆกับสียงบีบแตรกันสนั่นลั่นเมือง

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 17:10] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  47. ag27kku said

    พอออกมาได้หน่อยเราก็แวะกินกาแฟก่อนเดิน ทางไกล ดูตามสภาพร้านกาแฟของเว้แล้ว เราว่า less is more นี่ใช้ได้กับที่นี่จริงๆเพราะในร้านไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะกับเก้าอี้ ส่วนที่ชงแล้วส่วนประกอบการนั้นอยู่หลังม่านด้านหลัง

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 17:14] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  48. ag27kku said

    private seat

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 17:15] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  49. ag27kku said

    จะสังเกตว่าคนเวียตส่วนใหญ่ที่มานั่งจิบ กาแฟยามเช้าจะเป็นผู้ชาย ไม่มีผู้หญิงมานั่งกินกาแฟเลย เราสอบถามเพื่อนใหม่ชาวเวียตว่าเป้นเพราะเหตุใด เพื่อนสาวคนใหม่ตอบเราว่า..เพราะผุ้หญิงเวียตเชื่อว่ากินกาแฟทำให้ผิวคล้ำ.. .ซึ่งเราสันนิษฐานว่า…ไม่จริง เธออาจจะไม่รู้คำตอบที่แท้จริงหรือไม่งั้นเธอก็ไม่อยากเผยส่วนที่ไม่อยาก เปิดสู่สาธารณะก็ได้ว่าเพราะเหตุใด…ซึ่งเราสันนิษฐานว่า มันคือ Asian style นั่นเอง

    กาแฟโบราณ….มาก

    กดเพื่อดูภาพ

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [5 พ.ค. 49 17:23] ( IP A:202.183.129.162 X: )

  50. ag27kku said

    หรืออาจจะเป็นวัฒนธรรมของเขา ที่ยังไม่ค่อยมี working women เท่าไหร่

    (เห็นแล้วอยากกินกาแฟมากๆ แพร่บๆ)

    โดย: หน่อย HIV [5 พ.ค. 49 21:48] ( IP A:58.136.102.60 X: )

  51. ag27kku said

    หน่อยน้องเห็นแล้วอยากกินกาแฟ แต่พี่เห็นแล้วอยากไปเที่ยวเวียตจังว่ะ ไปอีกรอบไหมภาษ

    โดย: พี่ป้อม 26 [6 พ.ค. 49 14:27] ( IP A:203.118.120.87 X: )

  52. ag27kku said

    รูปสวยดีนะภาษ มีที่น่าสนใจเยอะนะ แถมพระราชวังดูเก่าๆ ขลังๆ หลอนๆ ดี แล้วที่ไปนี่เป็นส่วนไหนของเวียต เหนือ กลาง ล่าง หรือ ติดทะเล ที่ดานัง-ฮอยอันมีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วต้องเดินทางโดยอะไรถึงสะดวกที่สุด นอกจากการเหมารถ

    โอ้ย….ฉันอยากรู้เยอะแยะไปหมด เลยวะ แบบว่าอิจฉาจริงๆ

    โดย: กุ้งวรา [6 พ.ค. 49 20:14] ( IP A:194.208.214.39 X: )

  53. ag27kku said

    เห็นรูปแล้วทำให้นึกถึงบ้านเราย้อนยุค เลยอ่ะ ดูโบราณดีนะ …..สาวเวียตสงสัยจะกลัวดำจริงๆ ไม่รู้ภาษได้ถ่ายรูปถุงมือของเขาเวลาขับมอไซด์มาหรือเปล่า เห็นแล้วอะไรจะกลัวดำขนาดน้าน…อิอิ

    โดย: Meenilein [7 พ.ค. 49 15:40] ( IP A:83.181.34.201 X: )

  54. ag27kku said

    หน่อย…ผู้หญิงเวียตทำงานนอกบ้านเยอะนะที่โน่นน่ะ แต่เป็นนอกบ้านแบบว่าอยู่ตามท้องไร่ท้องนาน่ะ ไม่ใช่ในทางธุรกิจซักเท่าไหร่ 55555

    พี่ป้อม….จะไปอีกทีก็หนุกดีนะพี่แต่ขอคิดูก่อน อยากไปเมื่อไหร่บอกมา ขอแค่ให้ข้อยมีตังค์ซักก้อนก่อนเถอะ 5555

    นังกุ้ง ….ชั้นแนะนำแกว่าซื้อ lonely planet ฉบับเวียตนามมาอ่านเหอะเพื่อน ชั้นบอกแกได้ไม่หมดหรอก ถ้าแกอ่านที่ชั้นโพสต์ดีๆ แกจะรู้ว่าเว้-ดานัง-ฮอยอันอยู่ภาคกลาง ฮานอยอยู่ภาคเหนือ ส่วนโฮจิมินท์อยู่ภาคใต้ ส่วนเมืองอื่นๆชั้นไม่ได้บอกไว้เพราะชั้นเลือกบอกเฉพาะเมืองใหญ่ที่คนส่วน ใหญ่รู้จักน่ะแก

    มีน…..เราถ่ายถุงแขนของสาวเวียตไม่ทันง่ะ สาวๆทุกคนที่ขับมอไซค์ใส่กันทั้งน้าน ตอนขากลับเราว่าจะแวะตลาดหาซื้อนะ แต่ไม่มีเวลา

    โดย: ภาษ-นักผจญภัย [8 พ.ค. 49 11:22] ( IP A:202.183.129.162 X: )

RSS feed for comments on this post · TrackBack URI

ส่งความเห็นที่ ag27kku ยกเลิกการตอบ